มาประหยัดไฟกันเถอะ ตอนที่ 1

มาประหยัดไฟกันเถอะ ตอนที่ 1

คุณรู้หรือไม่ว่า เราต้องเสียค่าไฟส่องสว่างภายในบ้านมนแต่ละเดือนเป็นจำนวนเงินกี่บาท

ตามบ้านเรือนเราจะใช้ไปกันหลายชนิดแตกต่างกันไป เช่น หลอดนีออน หลอดตะเกียบ หลอดนีออนกลม หลอดไส้ และอื่นๆ สำหรับตัวอย่างนี้ จะยกตัวอย่าง คือ หลอดนีออน กลม ที่ใช้กันตามบ้าน ดังรูป

หลอดแบบนี้กินไฟเท่าไหร่กันนะ เรามาดูกัน โดยเราจะวัดปริมาณการใช้ไฟฟ้าของหลอดแบบนี้ โดยใช้ มัลติมิเตอร์มาวัด เราจะได้ปริมาณการใช้ไฟต่อชั่วโมง เพิ่มนำมาคิดคำนวนกันต่อไป

 

มัลติมิเตอร์

จากการวัดจะเห็นได้ว่า หลอดชนิดนี้ ใช้กระแสไฟ 0.43 แอมป์ ต่อชั่วโมง

การคำนวณ

ต่อไปนี้จะคิดแค่จำนวน 1 หลอดนะครับ สมุติว่า เราใช้ไฟหลอดนี้ที่ห้องนั่งเล่นดูทีวี และเราเปิดไฟ ตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนการการทีวีที่เราดูจบประมาณ 4 ทุ่มดังนั้นหลอดนี้ เราจะเปิด 4 ชั่วโมงต่อวัน

ดังนั้น ใน 1 เดือน เราจะเปิดไฟดวงนี้ 30*4 = 120 ชั่วโมง
เราจะหาปริมาณการใช้ไฟดวงนี้สำหรับ 1 เดือน ก็นำกระแสต่อชั่วโมงคูณด้วยจำนวนชั่วโมงจะได้ 0.43*120 = 51.6 แอมป์

การคิดหน่วยไฟฟ้า (ยูนิต) 1 หน่วย จะเท่ากับ 1000 Watt

ดังนั้น เราต้องแปลง 51.6 แอมป์ มาทำให้หน่วยเป็น วัตต์ ก่อนเพื่อจะคำนวนค่าไฟได้

การแปลงใช้สูตรดังนี้ วัตต์ = โวลล์*แอมป์

ไฟฟ้าบ้านมีกำลังไฟ 220 โวล์ แทนค่าในสูตร

วัตต์=220*51.6= 11352

สรุปได้ว่า ใน 1 เดือน หลอดไฟดวงนี้ ใช้ไฟทั้งหมด 11352 วัตต์ คิดเป็นหน่วยไฟฟ้าได้คือ 11352/1000 = 11.352 หน่วย

นำ 11.352 หน่วยที่ได้ไปคิดค่าไฟฟ้า สมุติว่าคุณค่าไฟหน่วยละ 3.9361

เราจะเสียค่าไฟให้กับหลอดไฟดวงนี้ 11.352*3.9361 = 44.68 บาท

หากเราเปิดนานกว่า 4 ชั่วโมง หรือ มีจำนวนหลอดหลายหลอด ค่าไฟก็จะเพิ่มตามชั่วโมงและจำนวนหลอดที่เปิด


การประหยัดไฟ

ก็มีหลายวิธี เช่น เมื่อไม่ใช้ก็ปิด ลดจำนวนการเปิดไฟลง ห้องไหนไม่มีคนอยู่ก็ปิด และที่ประหยัดไฟอย่างเห็นได้ชัดคือ การเปลี่ยนอุปกรณ์ เป็นอุปกรณ์ที่กินไฟน้อยลง เช่น ใช้หลอด LED มาแทนดังตัวอย่างต่อไปนี้


จากเดิมเราใช้หลอด

 

เราลองมาเปลี่ยนเป็นหลอด LED ที่มีความสว่างมากกว่าแต่กินไฟน้อยกว่าแบบในรูปด้วนล่าง

เราลองมาวัดปริมาณการใช้ไฟจากหลอด LED นี้กัน

ผลที่ได้ หลอด LED ชนิดนี้ ใช้ไฟ 0.03 แอมป์ต่อชั่วโมง เมื่อเทียบกับหลอดเดิม ที่ 0.43 แอมป์ต่อชั่วโมง หลอด LED กินไฟน้อยกว่าถึง 14 เท่าตัว และยังให้ความสว่างมากกว่า

เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ

เรามาเปลี่ยนหลอดไฟนีออนที่ใช้งาน มาเป็น หลอดแบบ LED กันเถอะ

สรุปได้ว่า หากเราเปลี่ยนหลอดไฟมาเป็นชนิด LED สามารถช่วยประหยัดไฟสำหรับไฟส่องสว่างมากขึ้นถึง 10 กว่าเท่าตัว แค่นี้ก็ประหยัดได้แล้ว

ติดตามความรู้อื่นๆได้ที่ Fanpage Sun's Benefit

การคิดค่าไฟฟ้าต่อเดือน

การคิดค่าไฟฟ้าต่อเดือน

ในแต่ละเดือนที่เราต้องจ่ายค่าไฟให้กับการไฟฟ้า ทราบหรือไม่ว่า แต่ละเดือนเราใช้ไฟ จำนวน เท่าไหร่ แล้วมีอัตรการคิดค่าไฟอย่างไร โดยในแต่ละเดือนจะมีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้า มาจด มิเตอร์ ที่บ้านเราว่าในรอบเดือนนั้นเราใช้ไฟฟ้าไปจำนวนกี่หน่วย เพื่อนำไปคิดค่าไฟ แล้วถึงจะมีใบแจ้งค่าไฟฟ้ามาที่บ้านอีกที โดยในใบเจ้ง จะมีรายละเอียดคือ

เลขครั้งหลัง คือเลขมิเตอร์ล่าสุดที่เจ้าหน้าที่มาจด
เลขครั้งก่อน คือเลขมิเตอร์ที่เจ้าหน้าที่มาจดเมื่อเดือนที่แล้ว
จำนวนที่ใช้ คือ จำนวนหน่วยที่เราใช้ไฟ ก็คือเขาจะเอา เลขครั้งหลังลบด้วยเลขครั้งก่อน คือหน่วยไฟฟ้าที่เราใช้ในเดือนนั้นๆ
ค่า FT คือค่าผลิตกระแสไฟ โดยจะแจ้งในบิลว่าเท่าไหร่ โดยคิดเป็นต่อหน่วย

เช่น
เลขครั้งหลัง 70000.000
เลขครั้งก่อน 69500.000

จำนวนที่ใช้คือ 70000-69500 = 500 หน่วย นั่นเอง โดยทางการไฟฟ้า จะนำจำนวนหน่วยที่ได้ไปคำนาณค่าไฟฟ้า และส่งใบแจ้งค่าไฟมาให้เพื่อให้เรานำไปชำระต่อไป



การคิดค่าไฟฟ้า

จากตารางการคิดค่าไฟฟ้า ของการไฟฟ้านครหลวง

จะเห็นได้ว่า มีการคิด 3 แบบ โดยบ้านเรือนที่อยู่อาศัยธรรมดาจะใช้แบบที่ 1 กับแบบที่ 2 โดยดูจากจำนวนหน่วยที่ใช้ฟ้าของเรา ถ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้แบบแรกคิด หากเกินกว่า 150 หน่วยต่อเดือนก็ใช้แบบที่ 2 นำมาคิดค่าไฟฟ้า

เราลองมาคำนวนกัน

ตัวอย่างเช่น หากใบแจ้งค่าไฟฟ้า แจ้งว่าเราใช้ไฟฟ้า จำนวน 500 หน่วย จะเห็นได้ว่า เกิน 150 หน่วย จะใช้วิธีคิดค่าไฟฟ้า แบบที่ 2 คือ

150 หน่วยแรก คิดที่อัตรา หน่วยละ 2.7628 บาท
ดังนั้น 150 หน่วยแรกจะคิดเป็นเงิน 150*2.7628 = 414.42 บาท

 250 หน่วยต่อมา คือ หน่วยที่ 151-400 คิดที่อัตรา หน่วยละ 3.7362 บาท
ดังนั้น 250 หน่วยต่อมาจะคิดเป็นเงิน 250*3.7362 = 934.05 บาท

หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป คิดที่อัตรา หน่วยละ 3.9361 บาท
ดังนั้น หน่วยที่ 401-500 คือ 100 หน่วย จะคิดเป็นเงิน 100*3.9361 = 393.61 บาท

รวมค่าไฟ คือ 414.42+934.05+393.61 = 1742.08 บาท

ค่าบริการต่อเดือน 38.22 บาท

ค่า Ft อัตราตามใบแจ้ง เช่น 0.4961 นำไปคูณหน่วย คือ 0.4961*500 = 248.05

นำทั้งหมดมารวมกันจะได้ 1742.08+38.22+248.05 = 2028.35 บาท


สุดท้าย นำ 2028.35 มาบวกภาษี 7% จะได้ ภาษี = 2028.35*7/100 = 141.98
นำภาษีมาบวกกับ 2028.35 จะได้ 2028.35+141.98 = 2170.33 บาท

ดังนั้น 2170.33 บาท คือ จำนวนเงินที่เราต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในเดือนนั้น

ปัจจุบันทางการไฟฟ้านครหลวงได้มีโปรแกรมคำนวนค่าไฟภายในเว็บไซด์ โดยเราแค่กรอกจำนวนหน่วยที่ใช้ไฟ ลงไป แล้วโปรแกรมจะคำนวนค่าไฟมาให้โดยอัตโนมัติ ทดลองคำนวนค่าไฟได้ที่

คำนวณค่าไฟจากการไฟฟ้านครหลวง

อ้างอิงจากการไฟฟ้านครหลอง http://www.mea.or.th/


ติดตามความรู้อื่นๆได้ที่ Fanpage Sun's Benefit